ขมิ้นชัน สมุนไพร ได้ขึ้นทะเบียนใช้ทดแทนยาแผนปัจจุบันได้

ขมิ้นชัน สมุนไพร ได้ขึ้นทะเบียนใช้ทดแทนยาแผนปัจจุบันได้

 

สารสกัดขมิ้นชัน เป็นพืชสมุนไพรที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นยาแผนปัจจุบันไปแล้ว หมายความว่าเราสามารถใช้แทนยาแผนปัจจุบันที่มีสรรพคุณเหมือนกันได้เลยค่ะ แล้วก็ไม่ต้องใช้ควบคู่กับยาแผนปัจจุบันตัวอื่นด้วย

สำหรับขมิ้นชันจัดว่าเป็นสมุนไพรท้องถิ่นที่มีสรรพคุณและประโยชน์หลากหลายมาก ช่วยบำรุงร่างกาย เสริมสร้างภูมิต้านทาน และสรรคุณอื่นๆ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เชื้อโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดอย่างหนัก เทรนด์ของการดูแลสุขภาพร่างกายจึงเป็นเรื่องใหญ่อันดับต้นๆของทั่วโลกค่ะ

ตามที่มีการเปิดเผยจาก นพ.นพพร ชื่นกลิ่น ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การขึ้นทะเบียนของ อย. เป็นยาแล้ว เท่ากับว่า ขมิ้นชันสามารถใช้แทนยาแผนปัจจุบันในกลุ่มบรรเทาปวดโรคข้อเสื่อมได้ โดยมีการเปิดเผยว่า ผลการศึกษานั้นแสดงว่าขมิ้นชันมีสารและคุณสมบัติที่ไม่แตกต่างจากยาต้านการอักเสบ และยังมีข้อดีคือ มีผลข้างเคียงต่อร่างกายน้อยกว่า และไม่ทำให้เกิดปัญหาพิษเรื้อรังด้วย

สำหรับที่ผ่ายมา กลุ่มของยาสมุนไพร จะถูกนำมาใช้เป็นยาเสริมร่วมกับการใช้ยาแผนปัจจุบันในการรักษาโรค แต่ล่าสุด อภ.สามารถพัฒนาสารสกัดขมิ้นชันมาผลิตเป็นยาในรูปแบบของแคปซูลในชื่อ “แอนติออกซ์ (Antiox)” แล้วก็ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เรียบร้อยแล้ว ทำให้สามารถนำมาใช้เพื่อทดแทนยาแผนปัจจุบันได้เป็นครั้งแรก เพราะไม่เคยปรากฏว่ามีสมุนไพรที่ได้รับการขึ้นทะเบียนในกลุ่มนี้มาก่อน และยังสามารถใช้เพื่อทดแทนยาแผนปัจจุบันตัวอื่นที่มีสรรพคุณเช่นเดียวกันได้ด้วย นั่นคือการบรรเทาอาการปวดในโรคข้อเข่าเสื่อม แต่ทั้งนี้การใช้งานก็ควรต้องใช้ตามที่แพทย์แนะนำ และสตรีมีครรภ์หรือระยะให้นมบุตรไม่ควรใช้ และผู้ป่วยที่เป็นนิ่วในถุงน้ำดีควรระวังในการใช้เพื่อรักษา

ทางด้าน อภ.ก็ได้มีการศึกษาทางเภสัชวิทยาและพิษวิทยาของแคปซูลสารสกัดขมิ้นชัน โดยศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการใช้งานเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ยาต้านอาการอักเสบไอบูโพรเฟนในผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมที่ รพ.ศิริราช จำนวน 367 คน แบบสหสถาบัน แบ่งการทดลองออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ได้รับแคปซูลสารสกัดขมิ้นชัน ขนาด 250 มิลลิกรัม ครั้งละ 2 แคปซูล 3 ครั้งต่อวัน นาน 4 สัปดาห์ จำนวน 185 คน และกลุ่มที่ได้รับยาต้านอักเสบไอบูโพรเฟน รับประทานครั้งละ 400 มิลลิกรัม 3 ครั้งต่อวัน จำนวน 182 คน พบว่า แคปซูลสารสกัดขมิ้นชันมีประสิทธิผลในการลดอาการปวดข้อจากโรคข้อเข่าเสื่อมและช่วยให้การทำงานของข้อเข่าดีขึ้น ไม่แตกต่างจากการใช้ยาไอบูโพรเฟน แต่พบผลข้างเคียงด้านระบบทางเดินอาหาร เช่น อาการปวดท้อง ท้องอืด น้อยกว่ากลุ่มที่ได้รับยาไอบูโพรเฟนอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนการศึกษาทางพิษวิทยา มีการศึกษาพิษเรื้อรังในสัตว์ทดลอง พบว่าปลอดภัยและไม่ก่อให้เกิดพิษเรื้อรัง

โดยสรุปแล้ว การที่สารสกัดจากขมิ้นชันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นยาแผนปัจจุบัน แปลว่าต่อไปนี้สามารถใช้เป็นยาแทนยาแผนปัจจุบันที่มีสรรพคุณเหมือนกันได้เลย คือถ้าใช้สารสกัดขมิ้นชันแล้วก็ไม่ต้องใช้ยาแผนปัจจุบันตัวอื่นควบคู่กันไปอีก ผลการศึกษาสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดโรคข้อเข่าเสื่อมได้ไม่แตกต่างจากยาไอบูโปรเฟนที่เป็นยาแผนปัจจุบัน และมีผลข้างเคียงต่อระบบทางเดินอาหารน้อยกว่าด้วย นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีมากของการนำสมุนไพรไทยมาใช้รักษาผู้ป่วยและได้รับการรับรองจากวงการแพทย์อย่างจริงจัง

สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารเสริม Caminia มีสารสกัดจากขมิ้นชัน จึงนับว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ หากสนใจ ติดต่อเข้ามาได้ค่ะ